Saturday, October 23, 2010

ยำปลากระป๋องสูตรพิเศษ

ยำปลากระป๋อง

ยำปลากระป๋องสูตรพิเศษ

ปลากระป๋องนับว่าเป็นที่รู้จักกันดีอยู่แล้วในปัจจุบัน ส่วนมากแล้วมักเอาปลากระป๋องมาปรุงเป็นอาหารยำกันเสมอ ไม่ต่อยจะเอาไปปรุงเป็นอย่างอื่นนัก จากการเอาปลากระป๋องมายำก็มักเอามาปรุงเป็นต้มยำปลากระป๋องกัน

ส่วนผสม

1. ปลากระป๋องเอาแต่เนื้อ

- 1 กระป๋อง

2. ขิงอ่อนซอยเป็นเส้นบางๆ

- 2 ช้อนโต๊ะ

3. ไข่เค็มต้มหั่นเป็น 4 ซึก

- 2 ฟอง

4. ตะไคร้ซอยบางๆ

- 5 หัว

5. ใบสะระแหน่เด็ดเป็นใบๆ

- 2 ช่อ

6. หอมแดงซอยบางๆ

- 5 หัว

7. พริกขี้หนูสวนบุบพอแตก

- 15 เม็ด

8. แตงกวาผ่าซีกหั่นบางๆ ตามยาว

- 1 ผล

9. เกี้ยมฉ่ายกระป๋องหั่นบางๆ

- 2 ช้อนโต๊ะ

10. น้ำปลา

- 1 ช้อนโต๊ะ

11. น้ำมะนาว

- 1 ผล

12. มะเขือเทศสีดาผ่าซีก

- 2 ผล

13. ผักกาดหอม

การปรุง

เอาปลากระป๋องชนิดดีเป็นที่นิยมกินกันมาเปิดกระป๋องออก ซึ่งส่วนมากในปัจจุบันนี้มักมีความทันสมัย ดึงฝากระป๋องออกได้โดยง่าย จากนั้นก็เทใส่ลงไปในกระทะหรือหม้อใบเล็กๆ อุ่นให้ร้อยเสียก่อน

ที่อุ่นให้ปลากระป๋องร้อนที่ใช้บรรจุ อย่าไปอุ่นในกระป๋องโดยตรงอาจจะทำให้โลหะที่บรรจุละลายออกมาผสมรวมกับเนื้อปลากระป๋องได้

จากนั้นเอาแต่เนื้อปลามาวางลงในจานวางไข่เค็มลงไปเรียงรายโรยขิงอ่อนลงไป โรยตะไคร้ซอยลงไป โรยหอมแดงลงไปอีก โรยพริกขี้หนูบุบพอแตกลงไป โรยแตงกวาหั่นบางๆ โรยเกี้ยมฉ่ายที่หั่นบางๆลงไปอีก ใส่น้ำปลาดีปรุงรสชาติ ใส่น้ำมะนาวลงไป โรยใบสะระแหน่มะเขือเทศสีดา หั่นวางริมจาน มีผักกาดหอมรองก้นจานด้วยอีกอย่างหนึ่ง ไม่ต้องผสมรวมกัน เสิร์ฟได้ทันที

เอายำปลากระป๋องสูตรพิเศษนี้มากินกับข้าวสวยร้อนๆ ก็ได้รสชาติที่ดี เอร็ดอร่อยมากในความพิเศษที่มีอยู่สำหรับส่วนผสมที่หลากหลายเอามาทำเป็นกับแกล้มก็วิเศษสุดๆด้วย

Friday, October 15, 2010

ส้มตำหอยนางรมดอง

ส้มตำหอยนางรมดอง

ส้มตำหอยนางรมดอง

หอยนางรมดอง อร่อยนักหนา

เอามากินกับข้าวต้มก็ได้อย่างเหมาะสม อร่อยเหลือหลายจริงๆ เพราะความเค็มและกลิ่นโดยเฉพาะตัวเป็นเอกลักษณ์ของหอยนางรมดองอยู่แล้ว ไม่มีคำว่าผิดหวังเลย ใครๆก็ชอบทั้งนั้น

บางทีบางท่านอาจจะยังไม่คุ้นกับหอยนางรมดอง ก็น่าจะมีอยู่บ้าง มักจะคุ้นเคยกับหอยนางรมสดที่ซื้อขายกันอยู่ทั่วไป บางทีก็เอามาบรรจุไว้ในถ้วยพลาสติกปิดฝาแน่นแช่เย็นเอาไว้อย่างดีเอามายำเอามาทอดกับไข่ก็อร่อย

ส่วนผสม

1. มะละกอซอย

- จำนวน 1 ถ้วย

2. แครอตซอย

- จำนวน 2 ช้อนโต๊ะ

3. หอยนางรมดอง

- จำนวน 3 ช้อนโต๊ะ

4. พริกขี้หนูสวน

- จำนวน 5 เม็ด

5. กระเทียมปอกเปลือก

- จำนวน 1 หัว

6. มะเขือเทศสีดาผ่าซึก

- จำนวน 2 ผล

7. ถั่วฝักยาวหั่นเป็นท่อนสั้นๆ 1/2 นิ้ว

- จำนวน 1 ช้อนโต๊ะ

8. น้ำมะนาว

- จำนวน 1 ช้อนโต๊ะ

9. น้ำปลา

- จำนวน 2 ช้อนชา

10. น้ำตาลปี๊บ

- จำนวน 2 ช้อนชา

การปรุง

ตามสูตรการปรุงส้มตำทั้งหลายนั่นเอง ไม่มีอะไรเป็นทั่ยุ่งยากนักหนา ใส่เครื่องปรุงอะไรบ้างก็ปรากฎอยู่แล้วข้างต้นนี้เรื่องนี้โจ๊กพูดกันอยู่ในวงการของผู้เขียน ที่น่าเอามาหยอดไว้ ณ ที่ตรงนี้บ้างก็คงจะไม่ผิดกติกาอันใด

Saturday, October 9, 2010

ส้มตำเปลือกส้มเขียวหวาน

ส้มตำเปลือกส้มเขียวหวาน

ไม่น่าเชื่อว่าเปลือกส้มเขียวหวานมาปรุงเป็นส้มตำก็ได้ เมื่อเอาเปลือกส้มเขียวหวานชนิดสีเขียวๆ มาหั่นให้เป็นเส้นบางๆ แล้วก็ปรากฎว่ารสชาติดี เอร็ดอร่อยมาก มีกลิ่นหอมแปลกรสอีกด้วย

เปลือกส้มเขียวหวาน เอามาผสมผสานกับถั่วฝักยาวและแครอตยิ่งได้รสชาติที่เป็นหนึ่งทีเดียว

ส่วนผสม

1. เปลือกส้มเขียวหวาน หั่นเป็นเส้นบางๆ ยาว 1 นิ้วเศษ

- จำนวน 1/2 ถ้วยตวง

2. แครอตซอยเป็นเส้น

- จำนวน 1/2 ถ้วยตวง

3. ฝักอ่อนถั่วพูหั่นขวางบางๆ

- จำนวน 1/2 ถ้วยตวง

4. กุ้งแห้งโขลกหยาบๆ

- จำนวน 3 ช้อนโต๊ะ

5. ถั่วลิสงคั่วบุบพอแตก

- จำนวน 1 ช้อนโต๊ะ

6. กระเทียมปอกเปลือก

- จำนวน 3 ช้อนโต๊ะ

7. พริกขี้หนูสวน

- จำนวน 7 เม็ด

8. น้ำปลา

- จำนวน 1 ช้อนโต๊ะ

9. น้ำมะนาว

- จำนวน 1 ผล

10. น้ำตาลปี๊บ

- จำนวน 2 ช้อนชา

11. เครื่องปรุงรส รสไก่ ชนิดปง

- จำนวน 1 ช้อนชา

การปรุง

จัดการโขลกกระเทียมกับพริกขี้หนูสวนเสียก่อนพอแหลกหยาบๆ ไม่ต้องให้ละเอียดมากจะไม่อร่อย

ต่อมาก็เอาเปลือกส้มเขียวหวานที่หั่นเป็นเส้นบางๆ ใส่ลงไปในครก โขลกเบาๆ ใส่แครอต ฝักถั่วพูอ่อนตามลงไป โขลกเบาๆคลุกเคล้าเข้าด้วยกัน

ใส่กุ้งแห้งลงไปคลุกเคล้าผสมด้วยอีกอย่างหนึ่ง

ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลปี๊บ เครื่องปรุงรส รสไก่ ตามไปด้วยถั่วลิสงคั่ว คลุกเคล้าเข้าด้วยกันแล้วลองชิมดู

ชิมว่ารสดีแล้วหรือยัง ขาดรสอะไรบ้างก็เติมลงไปอีกจนพอใจ และอร่อย ตักใส่จาน เอามาเสิร์ฟได้เดี๋ยวนั้นทันที

กินกับผักดิบ ผักสดต่างๆ ได้อย่างเอร็ดอร่อยมาก แปลกรสที่มีเปลือกส้มเขียวหวานนี่เอง

ผักดิบสดนั้นก็เหมือนกับการกินส้มตำอื่นๆ นั้นเอง

ผักกาดหอม กะหล่ำปลี ยอดกระเฉด ยอดกระถิน ยอดมะกอก ถั่วฝักยาว หรือจะเอาหัวปลีมาร่วมด้วยก็ได้

อร่อยเช่นเดียวกัน รวมทั้งสายบัวอีกอย่างหนึ่ง

Friday, October 8, 2010

ส้มตำเหง้าบัวหลวง

ส้มตำเหง้าบัวหลวง
ส้มตำเหง้าบัวหลวง บางท่านอาจจะเรียกว่าบัวหลวงก็ได้ หรือบางท่านอาจจะเรียกว่าไหลบัวหลวง ซึ่งก็เป็นส่วนหนึ่งของบัวหลวงเหมือนกันนั่นเอง เป็นเหง้าหรือรากหรือไหลต้นบัวหลวงที่อยู่ในดินใจ้น้ำทีต้นบัวหลวงเจริญงอกงามอยู่

ส่วนผสม

1. เหง้าหรือรากบัวหลวงล้างน้ำให้สะอาดซอยแล้วเอาไปลวกสุกๆดิบๆ

- จำนวน 1 ถ้วยตวง

2. แครอตซอย

- จำนวน 1 ถ้วยตวง

3. กุ้งแห้งโขลกหยาบๆ

- จำนวน 2 ช้อนโต๊ะ

4. ปูเค็มชนิดจืดลวกน้ำร้อน ฉีกขาก้าม ไม่เอากระดองปู

- จำนวน 2 ตัว

5. ถั่วฝักยาวหั่นเป็นท่อนๆสั้น 1/2 ซม.

- จำนวน 1 ฝัก

6. ถั่วพูฝักอ่อนหั่นชิ้นหนา 4 มม.

- จำนวน 1 ช้อนโต๊ะ

7. มะเขือเทศสีดาผ่าซีก

- จำนวน 3 ผล

8. พริกขี้หนูสวน

- จำนวน 7 เม็ด

9. กระเทียมปอกเปลือก

- จำนวน 2 หัว

10. น้ำปลา

- จำนวน 1 ช้อนโต๊ะ

11. น้ำมะนาว

- จำนวน 1 ผล

12. น้ำตาลปี๊บ

- จำนวน 2 ช้อนชา

13. เครื่องปรุงรส รสไก่ ชนิดผง

- จำนวน 1 ช้อนชา

การปรุง

ปรุงเช่นเดียวกับการปรุงส้มตำทั้งหลายนั้นเอง ไม่ยุ่งยากอะไรนัก เอากระเทียมใส่ครกโขลกกับพริกขี้หนู ใส่เหง้าหรือรากบัวหลวงลงไปโขลกคลกเคล้า ใส่แครอต ถั่วฝักยาว ปูเค็ม ถั่วพู มะเขือเทศสีดาผ่าซีก โขลกคลุกเคล้าไปมา ใส่น้ำปลาน้ำตาลปี๊บ เครื่องปรุงรส รสไก่ น้ำมะนาว และกุ้งแห้ง

คลุกเคล้าให้เข้าด้วยกัน แล้วลองชิมรสชาติดูว่าเป็นอย่างไร อ่อนรสไหนก็เติมอีกได้ทันทีจนพอใจ ตักใส่จาน

Thursday, October 7, 2010

ยำยอดมะม่วง

ยำยอดมะม่วงอ่อน

ยอดมะม่วงอ่อน เวลาที่ต้นมะม่วงแตกยอดอ่อนออกมานั้น มองดูสวยงามดีมาก จากยอดเล็กๆ แล้วเจริญเติบโตเป็นใบอ่อนที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ใบอ่อนที่เกิดจากยอดอ่อนนี้เอง สีสันจะแตกต่างจากใบของมะม่วงที่แก่แล้ว ซึ่งเป็นสีเขียวสดใส

ยอดอ่อนของมะม่วงบางทีก็เป็นสีน้ำตาลอ่อนแก่ อาจจะไม่เหมือนกัน เป็นไปตามสายพันธุ์ที่มีอยู่ของมะม่วงนั้นเอง

ยอดมะม่วงอ่อนนี้เองที่ชาวบ้านมักจะเด็ดเอาไปเป็นผักสำหรับจิ้มน้ำพริกกะปิบ้าง บางทีก็เอามากินกับแกงเผ็ด ผัดเผ็ด ส้มตำ ลาบ ก้อย น้ำตก ซุบหน่อไม้ ซึ่งก็ถูกกันดีทีเดียว

ในที่นี้เอายอดมะม่วงอ่อน มาปรุงเป็นอาหารประเภทยำก็ได้อย่างดี น่าสนใจอีกอย่างหนึ่ง อาหารยำที่เอายอดมะม่วงอ่อนมาปรุงกันนี้ยังไม่เคยเห็นว่ามีผู้ใดปรุงกินกันมาก่อน

มีก็แต่เอายอดมะม่วงอ่อนที่ว่านี้มาเป็นผักจิ้มกันอย่างที่เอ่ยถึงมาข้างต้นนี้เท่านั้นเอง

เมื่อเราเอายอดมะม่วงอ่อน มาปรุงให้เป็นอาหารยำก็ไม่แปลกอะไรเลย สามารถกินกันได้เสมอ

ลองมาพิจารณาดูส่วนผสมของยำยอดมะม่วงอ่อนที่ได้เดี๋ยวนี้ว่ามีส่วนผสมอะไรมากน้อยเพียงใดดังต่อไปนี้

ส่วนผสม

1. ยอดมะม่วงอ่อน ล้างให้สะอาด เอามาหั่นทางขวางเป็นชิ้นเล็กๆ กว้างประมาณ 1/2 ซม.

- จำนวน 2 ถ้วยตวง

2. แครอตเอามาซอยเป็นเส้นฝอย

- จำนวน 2 ช้อนโต๊ะ

3. กุ้งนาง เด็ดหัว ปอกเปลือก ดึงเส้นดำที่หลังออกไป เว้นหางเอาไว้ ลวกพอสุกๆดิบๆ

- จำนวน 5 ตัว

4. ถั่วลิสงคั่วป่นหยาบๆ

- จำนวน 1 ช้อนโต๊ะ

5. น้ำพริกเผา

- จำนวน 1 ช้อนโต๊ะ

6. พริกขี้หนูสวนบุบพอแตก

- จำนวน 15 เม็ด

7. น้ำมะนาว

- จำนวน 1 ช้อนโต๊ะ

8. น้ำปลา

-  จำนวน 1 ช้อนโต๊ะ

9. ซีอิ๊วขาว

- จำนวน 1/2 ช้อนชา

10. น้ำตาลทราย

- จำนวน 1 ช้อนชา

11. เครื่องปรุงรส รสไก่

- จำนวน 1 ช้อนชา

12. กุ้งแห้งลวกน้ำร้อน โขลกหยาบๆ

- จำนวน 1 ช้อนโต๊ะ

13. กระเทียมสับละเอียด

- จำนวน 1 หัว

การปรุง

เอากะละมังใบย่อมมาเป็นภาชนะคลุกเคล้า ใส่ยอดมะม่วงอ่อนที่ล้างสะอาดแล้ว หั่นเรียบร้อยลงไป ใส่กุ้งแห้งโขลกหยาบๆ ตามไปด้วยกุ้งนางลวก

แครอตซอยคลุกเคล้าเข้าด้วยกัน ใส่ถั่วลิสงคั่วป่นตามลงไป ใส่พริกขี้หนูสวนบุบพอแตกคลุกเคล้าเข้าด้วยกัน

เริ่มปรุงด้วยเครื่องปรุงรสทันที ใส่น้ำปลาลงไป น้ำพริกเผาน้ำมะนาว ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย เครื่องปรุงรส รสไก่ ใส่ลงคลุกเคล้าให้เข้ากัน

เอายำยอดมะม่วงอ่อนนี้มากินกับข้าวสวยร้อนๆก็ได้ เอามากินเปล่าๆก็ได้อร่อยทั้งนั้น หรือเอามาเป็นกับแกล้มก็ได้ เป็นที่ชื่นชอบสำหรับผู้ที่ชื่นชมในการดื่มทั้งหลายทีเดียว